อ่านเจอในเวปบอร์หลายๆแห่งแล้วเห็นใจผู้บริโภค ด้วยกันครับเพราะผมทราบและเข้าใจว่า คนเราเมื่อตัดสินใจซื้อรถซักคัน คงไม่มีใครอยากโดนยึด คงไม่มีใครอยากโดนทวงหนี้หรอกครับ แต่เพราะบางทีด้วยความจำเป็นด้านการงาน การเงิน ที่มันไม่เป็นตามใจหวัง ควบคุมไม่ได้ จึงทำให้หลายท่านต้องประสบพบเจอกับคนที่ตามทวงหนี้ คนที่ตามมาขู่ มายึดรถ
ดังนั้นจากประสบการณ์และจากการศึกษามา ผมจะมาบอกทางออก ข้อแนะนำ สำหรับท่านเมื่อมีพนักงานโทรทวงหนี้ พูดจาไม่สุภาพ พร้อมทั้งพวกที่ขู่ว่าจะยึดรถครับ พึงระลึกไว้เสมอว่า
ดังนั้น ถ้าเขาจะยึดรถ จงบอกให้เขาทำเรื่องฟ้องมา แล้วเราก็เตรียมเงินค่าเช่าซื้อที่ค้าง เตรียมหลักฐานและเหตุผลไว้ เชื่อหรืออไม่ว่า ถ้าฟ้อง ศาลเขาจะให้คุณจ่ายให้มันแค่ค่าเช่าซื้อ ส่วนค่าติดตามอันมหาโหดคุณไม่ได้จ่าย ่คาโน้นนี่นั่นคุณจะไม่ต้องจ่าย เช่น ฟ้องมา 200,000 บาท ได้จ่ายแค่ 130,000 บาท เป็นต้น ดีไม๊ละครับ ถ้าคิดว่าตัวเองจะส่งต่อได้ในอนาคตอันใกล้นี้ ห้ามให้ยึดไม่ว่าจะเป็นรถอะไรก็ตาม เพราะเรามีแต่เสียกับเสีย ทีนี้มาดูกันครับว่าเราต้องทำไงบ้าง
อันดับแรกนะครับ
1. หาหลักฐานการจ่ายเงิน ทุกครั้งที่จ่ายเงินต้องเก็บหลักฐาน ทุกครั้งให้ขอใบเสร็จด้วย ว่าเราจ่ายไปเท่าไหร่ยังไง
2. อ่านสัญญาให้เข้าใจ ให้รู้ว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้าง สามารถขาดส่งได้กี่วัน
3. ต่อรองครับ อย่าให้มันยึดรถเด็ดขาด อย่าให้มันเจอ แต่ถ้ามันเจอแล้วมันจะยึดแจ้งตำรวจเลยครับ
4. เข้าไปติดต่อบริษัทเองอย่าติดต่อผ่านพวกติดตามครับ สามารถต่อรองได้ เพราะเขาจ้างมาอีกทีครับ
5. ขอตรวจเช็คยอดหนี้คงค้างจริง ที่ยังไม่คิดค่าติดตามต่างๆ ให้เขาแจกแจงให้ครบ
6. ย้ำครับ อย่าปล่อยให้ยึด เพราะถ้าเขายึดไปแล้ว เขาเอาไปขายทอดตลอดสุดท้ายถ้าขายได้น้อยกว่าราคาซื้อ+กำไรที่มันควรจะได้มันจะมาเรียกเก็บเราอีก คือรถกูก็ไม่ได้ขับ เงินกูยังต้องใช้มึงอีก
7. วิธีลูกทุ่งครับ เอารถไปไว้ที่อื่นก่อน มีเงินค่อยทยอยจ่ายมันเข้าไป แต่ต้องจ่ายนะครับ
8. ถ้าใครพูดจาไม่สุภาพอัดเสียงไว้เลยครับ แล้วเราก็ร้องเรียนไปที่บริษัทไปที่สื่อเพราะเรามีปัญหาไม่มีเงินขาดสภาพคล่องตกงาน ไม่ใช่จงใจไม่จ่าย
9. ถ้าให้สะใจ มันด่ามาเราด่ามันตอบเลย ถามชื่อมันด้วย นามสกุลด้วย ตามไปที่บริษัทมันเลย เพราะอะไรครับ การทวงถาม มันต้องมีจิตวิทยากว่านี้ มันต้องมีทางออกให้เรา ช่วยเรา เห็นใจเขาเห็นใจเรา ถ้ามันเอาคำไม่สุภาพมาด่า นั่นแสดงว่ามันทำไม่ถูกมึงด่ามึงขู่เพื่อให้กลัว ถ้าคนมันไม่มีก็คือไม่มีครับ เพราะจริงๆเป้าหมายคือต้องการเงินจากลูกค้า พูดยังไงก็ได้ให้ได้เงินแล้วทำไมต้องด่า เรื่องนี้ฟ้องได้นะครับ
10. ต่อรองครับ ไม่มีไม่หนีไม่จ่าย ไม่ให้ยึด ต่อรองลดยอดหนี้
กรณีค้างค่ารถเกิน 3 งวด
ปัญหานี้ค่อนข้างจะหนักพอสมควรเพราะค่างวดรถไม่ใช่ถูกๆ และหากค้างถึง 3 งวดทางไฟแนนซ์มีสิทธิ์ยกเลิกสัญญาเช่าซื้อได้และมีสิทธิ์มายึดรถคืนด้วย และการจ่ายชำระหากค้าง 3 งวดส่วนใหญ่จะต้องจ่ายครบทีเดียวทั้ง 3 งวดพร้อมด้วยค่าปรับและค่าต่อสัญญาและบางแห่งอาจมีค่าใช้จ่ายอื่นๆอีก ซึ่งในกรณีนี้หากสามารถชำระ 3 งวดได้ควรจ่ายให้หมดหรืออย่างน้อยต้องจ่าย 2 งวดเพื่อลดยอดค้างลงแต่ก็ยังโดนค่าปรับตามที่กล่าวมาอยู่ดี ส่วนในกรณีจะมีการยึดรถนั้น ทางไฟแนนซ์ไม่สามารถกระทำโดยพละการได้ พนักงานที่มายึดรถต้องมีหนังสือจากไฟแนนซ์มาด้วย ซึ่งมีผู้รู้ให้คำแนะนำดังนี้
ให้ตรวจสอบพนักงานที่มาทำการยึดรถ โดยต้องมีหนังสือมอบอำนาจจากทางไฟแนนซ์ พนักงานต้องมีบัตรพนักงานหรือหนังสือและบัตรประชาชนยืนยันการได้รับอำนาจโดยชอบธรรม หากพนักงานปฏิเสธให้ดูเอกสารต่างๆให้แจ้งความได้ทันทีในข้อหาข่มขู่ร่วมกันลักทรัพย์ และในการยึดรถผู้เช่าซื้อต้องค้างชำระค่าเช่าซื้อรวม 3 งวด และต้องค้างชำระติดต่อกันทั้งสามงวด รวมระยะเวลาบอกกล่าวจากผู้เช่าซื้อล่วงหน้าอีก 1 เดือน รวมเป็นยอดค้างทั้งหมด 4 งวดติดต่อกัน จึงจะสามารถเข้าไปยึดรถกลับคืนมาได้ และในมาตรา 574 ยังกำหนดไว้ชัดเจนว่า การจะกลับเข้าครองทรัพย์สินที่เช่าซื้อ จะกระทำได้ ก็ต่อเมื่อระยะเวลาใช้เงินได้พ้นกำหนดเกินไปอีกงวดหนึ่ง ดังนั้นการยึดรถของสถาบันการเงิน หากมีการยึดก่อน 4 งวด จึงเป็นการยึดที่มิชอบด้วยกฎหมาย ผู้เช่าซื้อมีสิทธิฟ้องกลับได้ทันที และผู้เช่าซื้อสามารถร้องเรียนได้ที่ สคบ.อีกทางหนึ่งด้วย
ซึ่งมีกรณีศึกษาจาก คำวินิจฉัยของศาลฎีกาที่ 2677/2547 ระบุอย่างชัดเจนว่า เมื่อยังไม่ได้ให้เวลาพอสมควร ให้ผู้เช่าซื้อชำระจำนวนเงินที่ค้างชำระ ถึงแม้จะค้างชำระ 3 งวด ไม่ถือว่าผู้เช่าซื้อผิดสัญญา ไฟแนนซ์ไม่มีสิทธิยึดรถคืน ถือว่าเป็นการยึดรถโดยละเมิด ทำให้สัญญาเช่าซื้อสิ้นสุดลง ไฟแนนซ์ต้องคืนเงินค่างวดที่ค้างชำระทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ย แต่มีสิทธิเรียกค่าใช้ทรัพย์จากผู้เช่าซื้อ สรุปคือ ถ้าไฟแนนซ์เข้ายึดรถก่อนครบ 4 งวด ถือว่าผิดสัญญาเช่าซื้อ ผิดกฎหมายและประกาศของคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่องให้ธุรกิจให้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. 2543 บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2543 ข้อ 3 (4) บัญญัติว่าผู้ให้เช่าซื้อสามารถบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อได้ในกรณีผู้เช่าซื้อผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อรายงวด 3 งวดติด ๆ กัน และผู้ให้เช่าซื้อมีหนังสือบอกกล่าวผู้เช่าซื้อให้ใช้เงินรายงวดที่ค้างชำระนั้นภายในเวลาอย่างน้อย 30 วัน นับแต่วันที่ผู้เช่าซื้อได้รับหนังสือและผู้เช่าซื้อละเลยเสีย ไม่ปฏิบัติตามหนังสือบอกกล่าว (ข้อมูลการยึดรถจาก สมาชิกหมายเลข 1888126 pantip.com)
ดังนั้นจากคำแนะนำของผู้รู้ที่ได้มาบอกเล่าเรื่องการยึดรถอย่างถูกต้องนั้น หมายความว่าหากค้างค่างวดถึง 3 งวดผู้เช่าซื้อยังมีเวลาพอที่จะเคลียร์ยอดค้างส่วนนั้นแต่ต้องไม่ปล่อยไว้เกิน 4 เดือนเพราะไม่เช่นนั้นจะเข้าข่ายยึดรถตามกฎหมายได้ แต่ทางที่ดีที่สุดคือหากรู้ว่าต้องมีปัญหากับการจ่ายชำระควรรีบติดต่อพนักงานและหาทางแก้ไขอย่าปล่อยไว้จนเป็นดินพอกหางหมูแล้วแก้ไม่ได้เพราะจำนวนเงินมันเยอะ และควรคิดให้รอบคอบก่อนซื้อรถซื้อมาแล้วผ่อนไม่ไหวกลายเป็นหนี้เสียทำให้ตัวเองเสียเครดิตไปอีกต่างหาก
